“ภูมิธรรม” เผย เริ่มแล้วมาตราการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระงับทันทีหากมีประวัติโทรมากกว่า 100 สายต่อวัน ด้าน กสทช. เตรียมเรียกสอบคนถือซิมมากกว่า 50 หมายเลข หลังพบประชาชนถูกหลอกลวง 2023.12.12【Gov】【Thailand,ประเทศไทย,】
“ภูมิธรรม” เผย เริ่มแล้วมาตราการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระงับทันทีหากมีประวัติโทรมากกว่า 100 สายต่อวัน ด้าน กสทช. เตรียมเรียกสอบคนถือซิมมากกว่า 50 หมายเลข หลังพบประชาชนถูกหลอกลวง-ดูดเงินจำนวนมาก
วันนี้ (12 ธันวาคม 2566) ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบ ชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. รักษาการเลขาธิการ กสทช., พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รองผู้บัญชาการตำรวจสบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมด้วย ผู้บริหาร AIS TRUE แถลงข่าวร่วมกันเรื่องมาตรการจัดการซิมม้าแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์
➤【泰国】泰国数字经济与社会部部长巴瑟透露,已经开始采取措施解决呼叫中心团伙诈骗问题,如果每天拨打超过100个电话,则将被视为可疑份子。国家广播和电信委员会(NBTC)在发现人们被欺骗或被盗走大笔资金后,正准备对拥有超过50个号码的SIM卡持有者进行调查。

12/12/2566 พิมพ์

“ภูมิธรรม” เผย เริ่มแล้วมาตราการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระงับทันทีหากมีประวัติโทรมากกว่า 100 สายต่อวัน ด้าน กสทช. เตรียมเรียกสอบคนถือซิมมากกว่า 50 หมายเลข หลังพบประชาชนถูกหลอกลวง
“ภูมิธรรม” เผย เริ่มแล้วมาตราการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระงับทันทีหากมีประวัติโทรมากกว่า 100 สายต่อวัน ด้าน กสทช. เตรียมเรียกสอบคนถือซิมมากกว่า 50 หมายเลข หลังพบประชาชนถูกหลอกลวง-ดูดเงินจำนวนมาก

วันนี้ (12 ธันวาคม 2566) ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบ ชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. รักษาการเลขาธิการ กสทช., พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รองผู้บัญชาการตำรวจสบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมด้วย ผู้บริหาร AIS TRUE แถลงข่าวร่วมกันเรื่องมาตรการจัดการซิมม้าแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นที่ทราบกันดีว่าพี่น้องประชาชนมีความเดือดร้อนจากการถูกหลอกและโกงจากภัยไซเบอร์ ซึ่งเป็นอันดับต้นๆ ของความทุกข์ร้อนของคนในประเทศ โดยท่านนายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญที่จะต้องขจัดภัยร้ายนี้ให้ออกจากสังคมไทย เพราะทุกๆ ที่ที่ไปเยี่ยมเยียนประชาชน มีการร้องทุกข์อย่างมาก จึงมีข้อสั่งการให้รัฐบาล ดำเนินการขจัดภัยนี้อย่างเร่งด่วน ด้วยรู้ว่าภัยนี้เป็นภัยระดับชาติที่ทั้งโลกกำลังประสบปัญหา โดยศัตรูซ่อนอยู่ในที่ที่เรามองไม่เห็น โดยให้กระทรวงดีอี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กสทช. เร่งดำเนินการขจัดภัยร้ายนี้ เพื่อนำความมั่นใจของประชาชนต่อระบบไซเบอร์ของประเทศกลับคืนมา พร้อมทั้งได้ประชุมกับ กสทช. อย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้มอบหมายให้เร่งแก้ปัญหาเรื่องหลอกลวงออนไลน์ และข้อมูลจากศูนย์ AOC ใน เดือน 1 เดือน (1-30 พ.ย. 66) ได้มีการรับแจ้งเข้ามาที่ศูนย์กว่า 80,000 สาย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เยอะมาก เราจึงต้องมีมาตรการที่เข้มข้นในการจัดการเรื่องนี้และได้ดำเนินการร่วมกับ กสทช. และ Operator เพื่อจัดการผู้ต้องสงสัยผู้เข้าข่ายหลอกลวง โดยพุ่งเป้าไปที่เบอร์โทรที่โทรออกมากผิดปกติต่อวัน เช่น 100 ครั้งต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่น่าสงสัย โดยได้ตรวจเจอว่า ตั้งแต่วัน 9 ถึง 11 ธันวาคม ทั้งสิ้น 12,500 เบอร์ และจะทำการพักใช้ทุกเบอร์ทันทีในวันนี้ รวมทั้งจะมีการประชุมยกระดับมาตรการต่างๆ เพื่อให้เป็นการทำงานเชิงรุก อีกตัวอย่างคือ ตอนนี้มี 6 ล้านเลขหมายที่ขึ้นทะเบียนแบบไม่ถูกต้องเข้าข่ายผิดกฎหมาย และอยากเร่งรัดผู้ถือครองซิมมายืนยันตัวตนภายใน 30 วัน หากไม่มาดำเนินการเราจะระงับการโทรออก และให้รับสายได้อย่างเดียว

สำหรับสาเหตุและการใช้งานซิมโทรศัพท์ที่เป็นเหตุของอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พบว่า ซิมม้าหรือซิมที่คนร้าย หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ในหลอกลวงประชาชนทางออนไลน์ พบพฤติกรรมที่ต้องสงสัยในการใช้งานเพื่อเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงสร้างปัญหากับประชาชนเป็นอย่างมาก กล่าวคือ ซิมโทรศัพท์หนึ่งเบอร์ ใช้โทรออกมากกว่า 100 ครั้งต่อวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ และยังขาดการป้องกันที่ดีพอ หรือ พบการลงทะเบียนหรือ ชื่อผู้ใช้งานที่ถือครองซิมเป็นหลายร้อยเลขหมาย ที่ยังไม่ได้ยืนยันแสดงตัวตนให้ถูกต้อง อาจเป็นช่องทางของผู้ร้ายในการใช้ซิมม้าในการก่ออาชญากรรม

“ที่ผ่านมา ดีอีได้จัดประชุมร่วมกับ กสทช. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) รวมถึงภาคเอกชนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด, บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงมาตรการแก้ไขปัญหาซิมม้า” รัฐมนตรี ดีอี กล่าว

นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการใช้บัตรประจำตัวชาวต่างด้าวมาลงทะเบียนซิมการ์ดเปิดใช้งานและขายให้แก่บุคคลทั่วไป ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นช่องทางให้โจรใช้ในการหลอกลวงประชาชน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการจับกุม ครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ อาทิ ที่ แม่สอด จังหวัดตาก พร้อมของกลางซิมพร้อมใช้งาน 4,379 หมายเลข และ ที่ชุมพร พบของกลางกว่า 10,000 หมายเลข และ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ศ.นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช., พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. ด้านกฎหมาย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. เชิญผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ประกอบด้วยบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด, บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด, บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด(มหาชน) เข้าร่วมประชุมพร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หารือเพื่อดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีข้อสรุปร่วมกัน ดังนี้

  1. มอบหมายผู้รับใบอนุญาตตรวจสอบข้อมูลการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ใช้บริการประเภทบุคคลธรรมดาแบบชำระค่าบริการล่วงหน้า (Prepaid) ที่มีการโทรออกตั้งแต่ 100 ครั้งขึ้นไปต่อวัน ในช่วงวันที่ 9 – 11 ธันวาคม 2566 และรายงานจำนวนผู้ใช้บริการที่มีการใช้งานในลักษณะดังกล่าวมายังสำนักงาน กสทช. ภายในวันที่ 11 ธันวาคม 2566 ทางอีเมล pulsiri.n@nbtc.go.th
  2. ให้ผู้รับใบอนุญาตศึกษาทางเทคนิคเพื่อหาวิธีเก็บข้อมูลการโทรออกโดยให้รวมถึงการโทรที่ไม่สำเร็จ (โทรออกแต่ไม่มีผู้รับสาย)
  3. ให้ผู้รับใบอนุญาตพิจารณาการจัดทำทะเบียน White list ผู้ใช้บริการทั้งประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่อาจมีการโทรออกตั้งแต่ 100 ครั้งขึ้นไปต่อวันแต่มิได้ใช้ในการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (เช่น ตัวแทนจำหน่ายประกัน หรือ Call Center ของหน่วยงานต่างๆ ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป)
  4. กรณี ศูนย์ AOC ตรวจสอบพบว่า หมายเลขโทรศัพท์ใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” (Tier 1) ให้ศูนย์ AOC แจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการยกเลิกการให้บริการได้โดยทันที และผู้รับใบอนุญาตจะต้องการขยายผลการตรวจสอบเลขหมายอื่นของผู้ใช้บริการรายดังกล่าว (Tier 2) รวมทั้งแจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตรายอื่นทราบและตรวจสอบด้วย โดยผู้รับใบอนุญาตจะระงับการให้บริการเลขหมาย Tier 2 เพื่อให้ผู้ใช้บริการมารายงานตน
  5. กรณีเลขหมายที่อาจเข้าข่ายว่ากระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ศูนย์ AOC จะเป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้ผู้รับใบอนุญาตส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพิจารณาการกระทำความผิด ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์ตรวจสอบเส้นทางทราฟฟิกกรณีมีการใช้หมายเลขปลอม

泰國官方反詐新招 每日通話百次視為詐騙嫌犯
2023-12-14

(曼谷13日綜合電)泰國數字經濟與社會部部長巴瑟指出,官方至今接到約8萬起有關電話詐騙的投訴,龐大數字令人震驚,因此該部決定採取行動,特別關注一天內撥打多個號碼的用戶,例如一天內撥打100次電話,將被視為可疑份子。

他說,首相賽塔已發出緊急指示必須迅速解決這個問題,而且許多國家都面臨同樣的挑戰,犯罪分子的活動地點既隱蔽又難以捉摸,而且作案手法相當相似,政府和私營部門必須通力合作,共同尋找解決方案。

泰國副首相兼商務部部長普湯、巴瑟、國家廣播和電信委員會、技術犯罪調查局及移動網絡運營商等相關代表,周二共同商討對付不法分子利用電話卡從事各類網絡犯罪的問題。

他表示,反網絡詐騙運營中心、國家警察總署、國家廣播和電信委員會以及移動網絡運營商共同制定了一套解決方案。當於周二正式實施,具體措施如下:

1.在核查與電詐團夥相關的電話號碼時,反網絡詐騙運營中心將立即通知電話服務運營商或人工接線員,要求立即取消與該號碼相關的服務;

2.電話服務運營商將對用戶的其他號碼進行檢查,以確定是否存在違法行為,並通知該號碼所屬的服務運營商展開調查。一旦發現異常,將立即暫停服務。但如果用戶想證明自己是本機機主,需要前往線下營業廳進行報道。

另一情況是,如果一個號碼的每日通話次數超過100次,用戶需要向服務運營商發送函件以證明其合法性,以防該號碼被視為可疑。如果撥打次數超過指定範圍,在7天內需要聯系運營商並驗證身份。如果在驗證身份後仍不能明確使用情況,將立即通知反網絡詐騙運營中心展開進一步調查。

3.移動電話服務運營商每月須向有關政府部門提交電信報告,在合理範圍內上報向電詐團夥提供網絡服務的運營商真實信息。對於重點懷疑對象,需在15天內提供身份證明和相關文件以確認是否涉及網絡犯罪,否則將按照異常通話的相關規定進行處理。


Telecom firms vow to fight scammers
Suspension for high level of outgoing calls
PUBLISHED : 14 Dec 2023 at 05:10

AIS and True Corp pledged on Wednesday to work with authorities to combat cyberthreats, focusing on numbers with unusually high amounts of outgoing calls.

Major telecom operators are committed to collaborating with state measures to combat cyberthreats by discontinuing service on numbers with unusually high levels of outgoing calls, says Digital Economy and Society Minister Prasert Jantararuangtong.Both Advanced Info Service and True Corporation said on Wednesday they were working with the ministry, Royal Thai Police, and the National Broadcasting and Telecommunications Commission (NBTC) to combat cyberthreats, focusing on numbers with unusually high amounts of outgoing calls to potentially suspend their services.
They plan to send SMS alerts to these suspicious numbers and immediately cancel services for prepaid numbers only, excluding postpaid numbers or those registered under business entities or organisations.
To protect the rights of users, authentic customers who are not involved in these activities can contact their call centres or customer service shops for identity verification and service restoration, said the duo.
Manat Manavutiveth, chief executive of True, said the increasing threat from scammers in various forms is causing widespread damage, making it imperative for all sectors to join forces and address these issues.
The NBTC sent letters to both major telecom operators mandating that they examine the prepaid phone numbers of individual users with outgoing calls of more than 100 per day from Dec 9, then suspend the numbers immediately.
The owners of the numbers are required to verify their identities within 15 days in order to restore the service.
If they fail to do so, their mobile phone service will be cancelled, said the regulator.
The operators also have to notify individual mobile phone users with more than 50 registered SIM cards per operator to report to the operators by the deadline of Jan 11, 2024.
If they fail to do so, their service will be suspended until they report to the operators.
The service suspension and cancellation is based on the 2023 emergency decree on the prevention and suppression of technology crime and related laws.


Call scams: Ministry’s shocking move to suspend thousands of numbers
Published: 11:10, 13 December 2023| Updated: 11:10, 13 December 2023 1 minute read

In a bold move to tackle the rising tide of call scams, the Digital Economy and Society (DES) Ministry unveiled a groundbreaking plan: any telephone number making over 100 calls per day will face immediate suspension.

DES Minister Prasert Chantararuangthong dropped this bombshell yesterday, December 12, revealing that an astonishing 80,000 individuals had reported falling victim to call scams within the past month alone, as per complaints filed with the Anti-Online Scam Operation Centre (AOC 1441).

Taking centre stage in this anti-scam crusade, Prasert declared war on phone numbers exhibiting an unusually high daily call volume. The results were swift and decisive. From December 9 to 11, a staggering 12,500 phone numbers surpassed the ominous 100-call threshold, leading to their abrupt suspension.

Yet, this is not the only battleground in the war against scams. The DES minister brought another alarming issue to the forefront — the illegal registration of over 12,500 phone numbers. In a plea to those with unlawfully registered numbers, Prasert urged action.

“Voluntarily report yourselves to AOC 1441 to avoid the looming suspension.”

The minister shed light on a growing concern: scammers exploiting foreigners’ IDs to register for SIM cards, thereby perpetrating phone scams. Recent crackdowns in Chumphon province yielded a significant discovery — over 10,000 SIM cards seized from these illicit operations, reported The Nation.

Undeterred, Prasert vowed to escalate efforts by forging alliances with key players in the field. Collaborating with the office of the National Broadcasting and Telecommunications Commission and cellular service providers, the minister aims to tighten the noose around the scammer’s neck, bringing relief to the beleaguered public.

In related news, the Thai National Broadcasting and Telecommunications Commission (NBTC) is poised to probe 40,000 numbers, suspected to be instrumental in SMS and phone scams, to apprehend the main culprits.

In other news, a viral video posted by a TikTok user, showing a real-life confrontation between a police officer and a telephone scammer, racked up more than 7.7 million views. The video captures an unusual incident where the policeman is contacted by a scammer who pretends to be a fellow officer from Mae Charim Police Station.


评论

发表回复

您的电子邮箱地址不会被公开。 必填项已用 * 标注